หลังจากการเดินทางไปเที่ยวบ้านบ่อหอยจังหวัดแพร่ พวกเราวิท พี่แหลม พี่แอ๊ด แก๊งเดิมมีเวลาเหลือกันอีก 1 วันจึงตัดสินใจเดินทางขึ้นเหนือมาสู่ดอย “สวนยาหลวง” จังหวัดน่าน สถานที่ขึ้นชื่อของคนจังหวัดน่านว่าเป็นเส้นทาง Offroad ศึกษาธรรมชาติที่น่าสนใจ และจากเดิมที่พวกเราค้างแรมมาแล้ว 1 คืนโดยที่ไม่ได้อาบน้ำ ระหว่างทางเราได้พบกับป้าย โป่งน้ำพุร้อน ก็แน่นอนสิครับ แวะเอาน้ำร้อน ชโลมตัวกันดีกว่าาาา
จากโป่งน้ำร้อน เราเดินทางตามแผนที่ เข้าสู่เส้นทางที่นำสู่ยอดดอยสวนยาหลวง เนื่องจากพวกเรามาในหน้าแล้ง ทางจึงแห้งสนิท เมื่อรถขับผ่าน ฝุ่นดินก็จะตลบอบอวน หากขับตามกันมาติดๆ อาจทำให้มองไม่เห็นทางกันเลยทีเดียวครับ แต่สำหรับที่นี่หากเป็นหน้าฝน รถก็จะต้อง 4x4 เท่านั้นและควรเป็นยาง All Terrain เป็นอย่างน้อยขึ้นไปนะครับ แต่ถ้าเป็นหน้าแล้ง ก็ขอให้เป็นรถกระบะ จะขับสองก็ยังได้ แต่ขอให้กำลังของรถดีๆ และสำคัญคือผู้ขับขี่ที่มีประสบการณ์ก็สามารถไปถึงยอดได้เลยครับ
บนยอดดอย อากาศในช่วงที่พวกเราไปนั้นหนาวเอามากๆ พวกเราขึ้นไปถึงยอดดอยที่เป็นลานโล่ง แต่ด้วยความที่ลมแรงมาก เราจึงตัดสินใจ ย้อนกลับลงมาตรงจุดที่มีศาลาเก่าอยู่ และตัดสินใจกางเต๊นท์ตรงนั้น ถึงแม้จะไม่ใช่จุดสูงสุดของดอยสวนยาหลวง แต่ศาลา ก็ทำหน้าที่ช่วยกำบังลมให้พวกเราได้อย่างดี ยังไม่พอ พวกเราช่วยกันจอดรถเป็นแนวกำบังลมเพิ่มอีกด้านหนึ่ง ซึ่งนั่นยังพอให้เราสามารถหลบลม และกางเต๊นท์ได้ ตกดึกเราหุงหาอาหารกันตามปกติ และตามธรรมเนียม พี่แหลมก็ก่อกองไฟเพื่อย่างอาหาร และช่วยให้ความอบอุ่นแก่พวกเราทุกคน ในรอบนี้อากาศหนาวเย็นถึงขนาดที่พวกเราต้องมานั่งล้อมกองไฟเป็นวงกลมกันเลยครับ และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่พวกเราต้อง Camping ท่ามกลางดวงดาวและอากาศที่หนาวเย็นมากๆ Thermometer บอกอุณหภูมิอยู่ที่ตัวเลขหลักเดียว ระหว่าง 1-4 องศาเซลเซียส อีกเพียงนิดเดียว… น้ำก็จะเป็นน้ำแข็งแล้ว
รุ่งเช้า พวกเราถูกปลุกด้วย พระอาทิตย์ที่ทอแสงลงบนผืนหญ้าสีเขียวอร่าม ช่างเป็นวิวทิวทัศน์ที่งดงาม แสนคุ้มค่ากับการเดินทาง
พวกเราเก็บเกี่ยวช่วงเวลาอันมีค่า และแวะกลับขึ้นไปที่ยอดดอยเพื่อเก็บภาพความประทับใจ และสุดท้ายก็โบกมืออำลา ดอยสอยมาลัย หวังว่าวันนึงหากมีโอกาส เราคงได้พบกันอีกครั้ง
ดอยสวนยาหลวง แต่เดิมเป็นพื้นที่ปลูกฝิ่นของชาวบ้าน แต่ด้วยน้ำพักน้ำแรงของในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่ทรงให้ความรู้กับชาวบ้าน ผันเปลี่ยนแปลงที่ดินยาเสพย์ติด กลายเป็น ไร่สวนกาแฟ ทุกวันนี้ กาแฟเป็นรายได้หลักของชาวบ้านที่นี่
สุดท้ายนี้ วิทกับแก ขอขอบคุณ
พี่แหลม พี่แอ๊ด - ขอบคุณมากๆครับพี่ที่อุตส่าห์มาลำบากด้วยกันครับ วิทเองก็ไม่มั่นใจว่าพามาถูกทางมั้ย หากทำให้พี่ๆลำบากตรงไหน วิทต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
พี่นัท พี่เอ - กับข้าวอร่อยมากๆครับ กลับมาน้ำหนักขึ้นเหมือนเดิมมมม 555
ไอ่ปอง - ขอบคุณที่ยอมมาลำบากด้วยกัน หวังว่า ในอนาคต จะได้ Offroad ร่วมกันกับมึง
ขอบคุณครับ
ชาญวิทย์ จงธนะวณิช และ อารีย์ลักษณ์ ตระกูลมุกทอง