2019-10-12 - Offroad to Pha-Tud-62_Resize.jpg

2019-10-12 - Offroad to Pha-Tud

2019-10-12 - Offroad to Pha-Tud

 Saturday 12th - Going up to Pha-Tud

วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม 2562 พวกเรา 10 ชีวิตพร้อมรถ 4 คัน ออกเดินทางมุ่งหน้าไปสู่ “ผาตัด” หนทางที่ใครๆต่างก็พูดถึงว่าเป็น สวรรค์ของนัก Off-road หนึ่งในที่สุดของสุดยอดเส้นทางโหดหิน และยิ่งไปกว่านั้น เรามาหน้าฝน! มันคือฤดูที่พร้อมจะเปลี่ยนทุกสถานการณ์ปกติ ให้กลายเป็นสิ่งที่พวกเราไม่สามารถจะคาดฝันได้

เราทั้ง 4 คันเริ่มออกบุกตะลุยช่วงประมาณบ่ายสาม ฟ้าฝนล้วนเป็นใจ ส่งฝนโปรยปรายชุ่มฉ่ำเบาๆลงมารอบหนึ่ง แต่แค่นั้นก็ยังไม่ทำให้ถนนหนทางเปียกปอนเท่าไหร่นัก พวกเรายังสามารถผ่านอุปสรรคต่างๆ ทั้งเนินรับแขก ถนนหนังหมูระหว่างทาง มาได้เรื่อยๆ จนในที่สุดพวกเรา ก็มาถึงเนิน VIP ประมาณห้าโมงเย็นก่อนฝนตก

เมื่อพวกเราเดินทางมาถึงเนิน VIP เราได้พบว่า มีรถไถดิน คันหนึ่ง ที่ออกเดินทางล่วงหน้ามาก่อนเรา พยายามทำหน้าที่เกลี่ยดินให้เรียบเพื่อที่จะนำสัมภาระของคณะเดินเท้าจากวัดผาซ่อนแก้ว ที่รออยู่หน้าเนิน VIP ขึ้นไปบนยอดผาตัด เราแอบดีใจว่า โอ้โห…สวรรค์ช่างเป็นใจ นอกจากฝนจะไม่ตกแล้ว ยังมีคนมาเกลี่ยทางให้ขึ้นง่ายๆอีก ทุกอย่างดูช่างเหมาะเจาะ… แต่แล้ว เนิน VIP ก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง

รถไถพยายามอย่างเต็มที่ในการที่จะลากสัมภาระทั้งหมด ขึ้นเนิน VIP และหลังจากการพยายามหลายต่อหลายครั้ง ท้ายที่สุด พวกเค้าก็ไม่สามารถนำสัมภาระผ่านเนิน VIP ขึ้นไปได้ ท้องฟ้าคำรามเสียงดังเป็นระยะๆ เมฆดำเริ่มคืบคลานเข้ามาใกล้ พวกเราทั้ง 4 คันจึงตัดสินใจขอรีบขึ้นไป เพื่อที่จะหาตำแหน่งปักหลักรถของพวกเรา และหวังจะใช้ Winch ช่วยลากรถไถขึ้นมาให้ได้ แต่แล้วในที่สุดสวรรค์ก็เป็นใจ เทฝนลงมาอย่างหนักหน่วงทำให้พวกเราทั้ง 4 ที่เพิ่งผ่านเนิน VIP ขึ้นมาเพียงครึ่งเดียว ไม่สามารถไปต่อได้เลย ทางถนนที่ก่อนหน้านี้ใช้เพียงพละกำลังของรถก็สามารถเอาชนะมันไปต่อได้ กลายเป็นทางดินลื่น ที่ไม่ว่าจะมีกำลังเท่าไหร่ก็ตาม มันก็ไม่สามารถฉุดให้รถไปต่อได้เลย พวกเราทุกคนต่างต้องอดทนรออย่างใจเย็น เพื่อรอจังหวะฝนซา แล้วทยอยใช้ Winch เพื่อลากให้รถคืบหน้าไปทีละน้อยๆ จากเวลา ประมาณ 6 โมงเย็นที่ฝนเริ่มตก พวกเราใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมงกับระยะทางเพียงไม่กี่ร้อยเมตร เพื่อที่จะไปให้ถึงยอดผาตัด ซึ่งนั่นก็ล่วงเลยปาเข้าไป 4 ทุ่มกว่าแล้ว แต่สุดท้าย พวกเราก็สามารถไปถึงยอดผาตัดจนได้ และได้ตั้ง Camp ในที่สุดครับ

Our night camp

แม้ว่าพวกเราจะไม่ได้มีเวลามานั่งพักและดื่มด่ำกับธรรมชาติมากนัก แต่กลับกันพวกเราก็ยังสามารถเลือกที่จะมีความสุขกับการตั้งแคมป์กลางดึก ได้ก่อกองไฟ ได้ลองใช้ไฟ LED สนาม ได้ร่วมกันทำอาหารและแบ่งปันกัน และทุกคนก็ยังสามารถยิ้มออกพร้อมทั้งนั่งจับเข่าพูดคุยถึงประสบการณ์ที่พวกเราเพิ่งผ่านมาในวันนี้ มันช่างเป็นเวลาที่แสนพิเศษจริงๆครับ

A Stunning view from Pha-Tud

วิวยามเช้าบนผาตัด พระอาทิตย์ขึ้น ทอแสงให้เห็นทุ่งหญ้าสีเขียวขจี งดงามคุ้มค่า

Sunday 13rd - Going down from Pha-Tud

หลังจากเพลิดเพลินกับการชมวิว และทานอาหารเช้า ในที่สุดก็ถึงเวลาที่เราต้องเริ่มเดินทางกลับ และอีกครั้ง เนิน VIP ก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง

ที่เนิน VIP ถึงแม้แดดจะออกแรงจ้า แต่ถนนหนทางยังคงลื่นและแฉะจากฝนที่ตกเมื่อคืน เพื่อความปลอดภัย พวกเราตัดสินใจใช้ Winch ค่อยๆหย่อนรถเข้ามาถึงตำแหน่งที่เริ่มมีร่องบังคับล้อรถ จากนั้นจึงถอด Winch ออกแล้วปล่อยให้รถ Slide ลงกันไปเองอย่างเพลิดเพลินเชียวครับ เมื่อผ่านจากเนิน VIP มาได้แล้ว พวกเราก็ยังมีติดอุปสรรคระหว่างทางเป็นระยะๆ บางจุดที่เคยผ่านมาได้ง่ายๆกลับลื่นไถล ล้อติด ล้อฟรี กลายเป็นว่าต้องมาใช้ Winch ช่วยกันดึงขึ้นมา แต่ในที่สุด พวกเราทุกคนก็สามารถผ่านทุกๆอุปสรรคของเส้นทางผาตัดในหน้าฝน และกลับออกมาได้อย่างปลอดภัยทุกคนครับ

บทสรุปการเดินทาง

ท้ายสุดนี้ วิทกับแก ขอขอบคุณพี่แหลม ที่อุตส่าห์ชวนวิทมาออกทริปครั้งนี้ด้วยกันครับ ไม่ได้พี่แหลมคงแย่แน่ๆเลย ขอบคุณพี่นัทพี่เอ ที่คอยเป็นธุระดูแลเรื่องต่างๆ ขอบคุณพี่แอ๊ด ที่ยอมโดนหลอกมาเชือดด้วยกันครับพี่ ลำบากพี่ที่สุดเลย 555 อีกทั้งที่สำคัญมากๆ ขอบคุณน้องแชมป์ น้องบอลและสาวๆ ที่อุตส่าห์ทำอาหารแสนอร่อยอีกทั้งยังเป็นผู้นำทาง คอยลงมาช่วยบอกไลน์ และคลิปสรุปทริปสุดเจ๋งข้างบนนี้ น้องๆทุกคนสุดยอดมากครับ และสุดท้าย ขอบคุณพี่ๆที่ร่วมทาง ถึงแม้พวกเราจะไม่มีเวลาได้ทำความรู้จัก แต่บนเส้นทาง Offroad ก็ล้วนเต็มไปด้วยมิตรภาพและน้ำใจไม่รู้ลืม

ขอบคุณครับ

ชาญวิทย์ จงธนะวณิช และ อารีย์ลักษณ์ ตระกูลมุกทอง